ค้นหา
ค้นหาเรื่องพระเจ้าและคำถามในชีวิต
ค้นหา
| ► | ฉันเพิ่งขอให้พระเยซูเข้ามาในชีวิตของฉัน (มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์จาก ThaiNewToJesus.com ต่อจากนี้)… |
| ► | ฉันอาจจะอยากเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเจ้า ช่วยอธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติม… |
การถอดเสียงวิดีโอ
เมื่อมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เรามักจะถามว่า พระเจ้า พระองค์อยู่ไหน
เราจะพึ่งพระเจ้าให้ช่วยเราได้มากแค่ไหน? พระองค์เป็นคนนั้นที่เราเข้าไปพึ่งพาได้ … ทั้งในยามวิกฤติหรือยามสงบ จริงหรือ?
ใช่แล้ว
พระเจ้าคือผู้สร้างจักรวาล ผู้ทรงต้องการให้เรารู้จักพระองค์เป็นอย่างยิ่ง นั่นเป็นเหุตผลที่เราเกิดมาในโลกนี้ พระองค์ปรารถนาที่เราจะพึ่งในพระองค์และได้ประสบกับพระกำลัง ความรัก ความยุติธรรม ความบริสุทธิ์และพระกรุณาของพระองค์ พระเจ้าตรัสกับทุกคนที่เต็มใจทำเช่นนั้นว่า “จงมาหาเรา”
พระเจ้าไม่ได้เหมือนเรา ทรงล่วงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า ปีหน้าหรืออีกสิบปีข้างหน้า พระองค์ตรัสว่า “เราคือพระเจ้า และไม่มีอื่นใดเหมือนเรา ผู้แจ้งตอนจบให้ทราบตั้งแต่เริ่มต้น”
พระองค์รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในโลก แต่ที่สำคัญกว่าคือทรงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และจะทรงอยู่ที่นั่นเคียงข้างคุณ ถ้าคุณเลือกที่จะให้พระองค์สถิตอยู่ในชีวิตคุณ พระองค์บอกกับเราว่า “พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก”
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่รู้จักพระเจ้าสามารถที่จะหลีกหนีจากความยากลำบากได้ เกิดสงคราม โรคระบาดที่เป็นเหตุของความทุกข์ยากหรือความตาย คนเหล่านั้นที่รู้จักพระเจ้าก็ต้องพบกับสิ่งเหล่านั้นด้วยเช่นเดียวกัน
แต่ถ้าเราเผชิญปัญหาในขณะที่เรารู้จักพระเจ้า เราจะตอบสนองต่อมันด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไป และไม่ใช่ด้วยกำลังของเราเอง ไม่มีปัญหาใดที่ยากเกินกว่าที่พระเจ้าจะทรงแก้ได้ พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าปัญหาทุกอย่างที่อาจเข้ามากระทบชีวิตของเรา และเราไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้รับมือกับมันอยู่คนเดียว
พระคัมภีร์บอกเราว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประเสริฐ ทรงเป็นที่ลี้ภัยในยามยากลำบาก ทรงห่วงใยบรรดาผู้วางใจในพระองค์” และ “พระเจ้าทรงอยู่ใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ แก่ทุกคนที่ร้องทูลต่อพระองค์ในความสัตย์จริง”
ถ้าคุณหันกลับมาหาพระเจ้าอย่างแท้จริง พระองค์จะทรงดูแลคุณอย่างที่ไม่มีใครทำได้ และในวิถีทางที่ไม่มีใครจะสามารถทำได้เช่นนั้น
แม้ว่าปัญหาจะดูเหมือนใหญ่เกินกำลังของเรา แต่เรามีพระเจ้าผู้ที่ทรงสามารถอย่างเหลือเชื่อผู้ที่ได้ตรัสเพื่อเตือนใจของเราว่า “นี่แน่ะ เราคือยาเวห์ พระเจ้าของมนุษย์และสัตว์ทั้งสิ้น มีสิ่งใดที่ยากเกินสำหรับเราหรือ?”
พระองค์เชื้อเชิญเรา
“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก จงเอาแอกของเราแบกไว้แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก”
ตอนนี้มีคำถามสำคัญ เราต้องเป็นคนดีแค่ไหนที่พระเจ้าจะทรงยอมรับเรา?
เรารู้ว่าหลายครั้งที่เราปล่อยตัวให้ทำในสิ่งที่เราเองก็รู้ว่ามันผิด ไม่ว่าผลกระทบจากสิ่งที่เราทำจะเกิดกับคนอื่นหรือกับตัวเองก็ตาม
และกี่ครั้งที่เราเหมือนกันพระเจ้าออกไป และใช้ชีวิตเหมือนกับว่า เราสามารถใช้ชีวิตได้ปกติโดยปราศจากพระเจ้า? พระคัมภีร์กล่าวว่า “เราทุกคนหลงทางไปเหมือนแกะ ต่างคนต่างหันไปตามทางของตนเอง”
ความบาปทำให้เราห่างไกลจากพระเจ้า และต้องเผชิญกับการพิพากษาและการลงโทษของพระองค์
อย่างไรก็ตาม โดยความรักที่ทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงจัดเตรียมหนทางเพื่อให้เราได้รับการอภัยโทษบาป และกลับคืนดีกับพระองค์ ความสัมพันธ์ของเราได้รับการกอบกู้อย่างสมบูรณ์เพราะสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อเรา
พระคัมภีร์บอกว่า “ค่าตอบแทนจากความบาปคือความตาย”
พระเยซูจึงยอมสิ้นพระชนม์แทนเรา เพื่อเราจะไม่ต้องถูกลงโทษและประสบความตายแยกจากพระเจ้าชั่วนิรันดร์
มันเหมือนกับคุณพ่อคนหนึ่งอาจยอมเป็นมะเร็งแทนลูกชายของเขาถ้าหากเขาทำได้
พระเยซูทรงรับบาปทั้งหมดของเราเอาไว้ที่พระองค์ ทรงถูกตรึงที่กางเขนแทนเรา พระองค์ได้จ่ายแทนความบาปของเราด้วยชีวิตของพระองค์ เพื่อให้เราได้รับการอภัย
เขาวางพระศพของพระองค์ไว้ในอุโมงค์ มีทหารยามเฝ้าที่ทางเข้า ทำไมต้องมีทหารยามเฝ้าที่อุโมงค์ฝังพระศพด้วย? ก็เพราะว่าทุกคนในเวลานั้นได้ยินสิ่งที่พระเยซูได้ตรัสไว้ก่อนหน้าว่า จะทรงถูกปรับโทษถึงตายและฝังไว้ แล้ววันที่สามจะเป็นขึ้นมาใหม่ นี่เป็นการพิสูจน์ว่าพระองค์คือพระบุตรของพระเจ้า จริงดังที่พระองค์ได้ตรัสไว้
สามวันหลังจากฝังพระศพ มีคนพบว่าอุโมงค์นั้นว่างเปล่า และหลายคนได้เห็นพระองค์กลับมีชีวิตฝ่ายร่างกายอีกครั้ง เขาได้พูดคุย และกินอาหารกับพระองค์ด้วย
ยอห์น หนึ่งในสาวกที่ติดตามพระเยซู ได้เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์แก่เรา และชีวิตนี้มีอยู่ในพระบุตรของพระองค์ คนที่มีพระบุตรก็มีชีวิต คนที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต”
คุณมีทางเลือก พระเจ้าต้องการให้คุณได้ใช้ชีวิตนี้ในการรู้จักพระองค์ ได้รับการทรงนำจากพระองค์ และอยู่ในความสัมพันธ์ฉันเพื่อนกับพระองค์ และในที่สุดจะได้อยู่กับพระองค์ในสวรรค์
เรารู้ว่าโลกนี้ไม่ได้กำลังเป็นไปอย่างที่พระเจ้าทรงตั้งพระทัยให้เป็น เรารับรู้ได้ในจิตสำนึกว่ามันต้องมีที่ที่ดีกว่านี้ให้เราอยู่ ที่ซึ่งปราศจากความยากลำบากและความเจ็บปวดที่บีบคั้นหัวใจของเรา และพระเจ้าได้บอกกับเราว่า ที่สวรรค์จะไม่มีการร้องไห้ ไม่มีความตาย ไม่มีความเจ็บปวด
อีกครั้ง ที่ทางเลือกเป็นของคุณ เหตุการณ์ยากๆในชีวิตที่เราประสบก็น่าสะเทือนขวัญพอแล้ว การไม่ยอมรับความสัมพันธ์ชั่วนิรันดร์กับพระเจ้าซึ่งพระเยซูทรงสัญญาว่าจะให้ ก็จะเป็นสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นมาก
พระเยซูทรงสัญญาว่าจะเข้ามาในชีวิตของเรา เพียงแค่เราทูลขอต่อพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “นี่แน่ะ เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้น”
ตอนนี้ คุณสามารถเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเจ้าโดยการทูลของให้พระเยซูเสด็จเข้ามาในชีวิตคุณ นี่เป็นคำอธิษฐานที่คุณสามารถพูดกับพระองค์ได้
พระเจ้าข้า ลูกได้หันหลังจากพระองค์ ใช้ชีวิตตามวิถีทางของตัวเอง แต่ลูกอยากจะเปลี่ยน ลูกอยากรู้จักพระองค์ พระเยซู ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อลูก ลูกทูลขอให้พระองค์เข้ามาสถิตในชีวิตของลูกเวลานี้ ขอบพระคุณที่ยกโทษบาปให้ลูกและประทานความสัมพันธ์กับพระองค์แก่ลูก อาเมน
ถ้าหากคุณได้ทูลเชิญพระเยซูให้เข้ามาในชีวิตด้วยความจริงใจ เมื่อสักครู่ คุณก็ได้เริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนั้น ขอให้คุณเข้าไปที่เว็บไซต์หนึ่งซึ่งจะช่วยคุณให้เติบโตขึ้นในความสัมพันธ์ใหม่กับพระเจ้า ชื่อเว็บคือ ThaiNewToJesus.com คุณจะพบว่ามันมีประโยชน์มาก
และคุณยังสามารถถามคำถามต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์นี้เช่นกัน แล้วจะมีคนมาตอบคำถามของคุณ
| ► | ฉันเพิ่งขอให้พระเยซูเข้ามาในชีวิตของฉัน (มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์จาก ThaiNewToJesus.com ต่อจากนี้)… |
| ► | ฉันอาจจะอยากเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเจ้า ช่วยอธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติม… |
