► | วิธีที่จะเริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า |
► | ผม มีคำถาม หรือ ความคิดเห็น |
การถอดเสียงวิดีโอ
พระคัมภีร์ถูกอ้างว่าเป็นการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์ของพระเจ้าถึงมวลมนุษยชาติ มีผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก ที่ดำเนินชีวิตตามคำสั่งสอนในพระคัมภีร์ และมีหลายล้านคนที่ยอมตายเพื่อสิ่งนี้ด้วย แต่ว่าอะไรทำให้เราเชื่อถือพระคัมภีร์ได้ล่ะ?
อย่างแรกเลย เราจะเห็นได้ว่านักประวัติศาสตร์ที่สำคัญๆหลายคนก็ได้บันทึกเรื่องราวของพระเยซูไว้ด้วยซึ่งก็สอดคล้องกับในพระคัมภีร์เช่นกัน อย่างเช่น คอนเนลิอัส ทาซิทัส นักประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเที่ยงตรงมากที่สุดคนหนึ่งของโลกยุคโบราณ, ฟลาวิอัส โจซีฟัส นักประวัติศาสตร์ชาวยิว, ซูทอนนิอัส และธอลลัส และแม้แต่ในทัลมุด ซึ่งเป็นคัมภีร์ของชาวยิว
แล้วสำหรับหนังสือชีวประวัติของพระเยซูหรือพระกิตติคุณทั้งสี่นั้น ที่เขียนโดยคนใกล้ชิดของพระเยซูนั้น เราจะมั่นใจได้อย่างไรล่ะว่าเป็นความจริง? เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้วเราจะพบว่าในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่มแม้มีการบันทึกเรื่องราวโดยมีวิธีการเขียนที่ไม่เหมือนกัน แต่ก็มีข้อเท็จจริงตรงกัน มีการบันทึกถึงชื่อสถานที่ที่มีอยู่จริง รายละเอียดทางด้านวัฒนธรรม และยังได้รับการยืนยันความถูกต้องจากนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตามบางคนอาจคิดที่ว่า พระคัมภีร์ใหม่ได้รับการแปลมาหลายครั้งแบบนี้จะบิดเบือนไปหรือเปล่า? การแปลพระคัมภีร์ใหม่จากภาษากรีก ฮีบรูและ อารเมคนั้นพบว่ามีสำเนาของต้นฉบับกว่า 24,000 ฉบับ, มีความสอดคล้องกันแบบคำต่อคำถึง 99.5% และเวลาที่คัดลอกสำเนาต้นฉบับก็ใกล้เคียงกับเวลาที่เขียนต้นฉบับดั้งเดิม จึงทำให้พระคัมภีร์มีความน่าเชื่อถือได้นั่นเอง
นอกจากนี้ นักโบราณคดีได้ทำการค้นพบอยู่อย่างต่อเนื่องถึงชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐ กษัตริย์เมืองต่างๆ และเทศกาลต่างๆ ที่ถูกบันทึกเอาไว้ในพระคัมภีร์ จึงแสดงให้เห็นว่าหลักฐานทางโบราณคดียังสามารถยืนยันความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ของพระคัมภีร์ได้ด้วย
ทั้งนี้มีหนังสือที่เป็นเอกสารปลอมแปลงหลายเล่มถูกเขียนขึ้นมาหลังจากพระคัมภีร์ใหม่ถูกเขียนเป็นร้อยปี แอทเธนาซีอัสจึงได้รวบรวมรายชื่อของหนังสือพระคัมภีร์ใหม่ 27 เล่มขึ้นมา และต่อมาเมื่อต้องมีการแปลพระคัมภีร์ใหม่เป็นภาษาอื่นๆ จึงได้ใช้รายชื่อหนังสือดังกล่าวในการเรียบเรียง ทำให้พระคัมภีร์มีมาตรฐานอย่างชัดเจน
บางคนอาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหนังสือพระกิตติคุณอีกว่า ทำไมไม่เขียนขึ้นทันทีหลังจากที่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ แต่กลับรอไปอีก 30-60 ปี ทั้งนี้ก็เพราะว่าเริ่มแรกพระกิตติคุณถูกเผยแพร่ออกไปโดยคำพูดแบบปากต่อปาก ภายในกรุงเยรูซาเล็มเอง จึงไม่จำเป็นต้องมีการเขียนถึงเรื่องราวชีวิตของพระเยซู เพราะว่าคนที่นั่นก็ได้รู้ได้เห็นถึงชีวิตและพระราชกิจของพระเยซู แต่เมื่อพระกิตติคุณได้เผยแพร่ออกไปนอกเขตเยรูซาเล็มแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจตรงกันนั่นเอง ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 30-60 ปีในการเขียนพระกิตติคุณดังกล่าว
และท้ายที่สุด ถ้าหากสิ่งที่พระเยซูทำในพระคัมภีร์นั้นเป็นความจริง แล้วจะมีผลอะไรรึเปล่า
คำตอบคือมีแน่นอน ให้คุณลองนึกถึงเวลาที่คุณเดินทางโดยเครื่องบิน คุณต้องมีความเชื่อว่าเครื่องบินและนักบินจะพาคุณไปถึงที่หมาย คุณจึงขึ้นไปบนเครื่องบินนั้น แต่สิ่งที่จะนำคุณไปถึงที่หมายได้จริงๆไม่ใช่แค่ความเชื่อของคุณ แต่เป็นความน่าเชื่อถือของเครื่องบิน นักบิน และปัจจัยอื่นๆ เช่นเดียวกับพระคัมภีร์ ถ้าพระคัมภีร์สามารถเชื่อถือได้ก็ย่อมนำเราไปถึงความจริงในชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถเชื่อถือพระคัมภีร์ใหม่ได้ จากข้อเท็จจริงมากมายดังกล่าว และเราก็สามารถมั่นใจที่จะเชื่อในพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า ทรงรับเอาความผิดบาปของเราแทนเรา และที่พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายนั่นเอง
► | วิธีที่จะเริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า |
► | ผม มีคำถาม หรือ ความคิดเห็น |